
จักจี้ รัฐมนตรีว่าการศธ.ใหม่ ‘กล้า-เด็ดขาด’ ยอมรับฟัง ‘นักวิชาการ’ มากยิ่งกว่า ‘ขรก.ประจำ&…
จักจี้ รัฐมนตรีว่าการศธ.ใหม่ ‘กล้า-เด็ดขาด’ ยอมรับฟัง ‘นักวิชาการ’ มากยิ่งกว่า ‘ขรก.ประจำ’ ดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนั่งที่ปรึกษาแทนการบ้านการเมือง
ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์ จิตระดับ นักวิชาการการเรียน อดีตกาลคุณครูคณะครุศาสตร์ จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย เผยออกมาว่า กรณี พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ ตระเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) โดยมีกระแสข่าวว่านายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำนร บางทีอาจถูกโยกไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น แม้นายน้องชายเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ถือว่าเป็นการขยับขึ้นตามโควต้าของพรรคพลังประชากรเมือง (พปชราชการ) ส่วนจะสมควรไหม เห็นว่ายังไม่สอดคล้องกับบริบท แล้วก็ปัญหาที่เกิดขึ้นทางการเล่าเรียน เพราะเหตุว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่มีปัญหาลึก แล้วก็เรื้อรังมายาวนาน จะต้องเป็นผู้ที่รู้เรื่องปัญหาด้านการเรียนจริงๆเข้ามาปรับแก้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าห่วงมากมาย ถ้าเกิดนำผู้ที่เป็นนักการเมือง หรือผู้ที่อยู่ในตำแหน่งทางด้านการเมือง เข้ามาจับการงานเล่าเรียน แล้วก็เกิดเรื่องที่สังคมไทยจำเป็นต้องตื่นตระหนก ถ้าหากนายน้องชายไม่ขยับดำเนินงาน ด้วยเหตุดังกล่าว นายน้องชายจำเป็นต้องทุ่มเทกับการทำงานทางการศึกษามากยิ่งกว่า 100% ถ้าหากไม่ทุ่มเท ไม่ลงจิตใจลงแรงสำหรับการดำเนินการ จะเจอปัญหาสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน รวมทั้งความก้าวหน้าเล่าเรียนแน่ๆ
ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์กล่าวว่ากล่าว ดังนี้ คนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บางทีอาจจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจงานโดยประมาณ 6 เดือน กว่าจะเข้าจิตใจบริบทการทำงาน รู้เรื่องเจ้าหน้าที่รัฐใน ศธ.แล้วก็ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัวโรนาสายประเภทใหม่ 2019 หรือวัววิด-19 ที่ทำให้การเรียนรู้เจอปัญหาเกี่ยวกับความแตกต่าง การลดน้อยของประสิทธิภาพการเล่าเรียน อาจจะก่อให้ไม่ว่างทำความเข้าใจงานเท่าไรนัก ด้วยเหตุผลดังกล่าว หากนายน้องชายเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จึงควรดำเนินการอย่างเร็ว รวมทั้งเต็มกำลัง แม้กระนั้นถ้าหากเข้ามาปฏิบัติงานแบบธรรมดา มีความรู้สึกว่าประเทศจะสูญเสียช่องทางในการพัฒนาการเรียนอย่างยิ่ง
“สังคมไทยไม่มีวันเลือกที่กำลังจะได้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่รู้จักระบบการเล่าเรียนดี ก่อนหน้าที่ผ่านมา ศธ.ได้ทดสอบรับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.มาบริหารจัดแจงผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอก หรือจากโควต้าทางด้านการเมือง ก็ประสบความล้มเหลวสำหรับในการดำเนินงานทั้งนั้น จากที่ผมมองเรื่องราวนายน้องชาย พบว่าเป็นครอบครัวชาวจีน มีเพื่อนพ้องมากมาย เป็นผู้ที่มีพื้นภูมิข้างหลังแบบคนเดินดิน ไม่สะดุดตา หลายๆคนอาจมองว่าฐานะนายน้องชายไม่เหมาะสมที่จะนั่งคุม ศธ.แม้กระนั้นหากดูในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีภูมิหลังอย่างนายน้องชาย บางทีอาจคุมคนภายใน ศธ.เจริญ ถ้าหากทุ่มเท กล้าที่จะลงมือกระทำโดยเด็ดขาด มีวิสัยทัศน์ และไม่กลัวฝูงชนมีอำนาจใน ศธ.นายน้องชายจะสามารถกลับการทำงาน แล้วก็วิวัฒนาการเล่าเรียนได้ แต่ว่าถ้าหากนายน้องชายปราศจากความมั่นอกมั่นใจ ก็จะถูกระบบราชการกลืนรับประทาน” ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์ กล่าว
ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์กล่าวว่ากล่าว เท่าที่ได้ติดตามลักษณะการทำงานของ ศธ.มีความคิดว่า ศธ.ควรจะแยกตัวออกมาจากระบบราชการ แล้วก็ให้เป็นหน่วนยงานที่วางนโยบายการเรียนรู้ของประเทศ เพื่อราชการกระทำตามแนวนโยบายแค่นั้น เนื่องจากถึงแม้รัฐบาลจะได้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ที่เป็นมือโปรระดับประเทศ อย่างเช่น นายวิจิตร ศรีสอ้าน อดีตกาลรัฐมนตรีว่าการ ศธ.แต่ว่าประสบความล้มเหลวในการพัฒนาการเล่าเรียนของประเทศ เนื่องจากส่วนประกอบ รวมทั้งวัฒนธรรมหน่วยงานของ ศธ.นั้น ตายสนิท จะเปลี่ยนสิ่งต่างๆทำเป็นยาก ก็เลยมีแนวทางเดียวที่จะความเจริญเรียนรู้ได้ เป็นจำเป็นต้องรื้อถอน ศธ.ให้เล็กลง รัฐมนตรีที่มาดูแล มีบทบาทวางนโยบาย แนวทางการเล่าเรียน และก็ระบุมาตรฐานเพียงแค่นั้น
“ถ้าหากรัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ ใจมีเมตตากรุณาสืบต่อหลักการการเล่าเรียนของนายณัฏฐพล คราวปกาญจน์ อดีตกาลรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บางด้าน ตัวอย่างเช่น บูรณาการการศึกษาเล่าเรียนของจังหวัด โดยกระจายอิทธิพลให้แต่ละจังหวัดจัดแจงเรียนรู้ของตน แม้กระนั้นอย่านำคนจากศูนย์กลาง หรือผู้มีอิทธิพลมากำกับดูแล ควรจะให้คนจากพื้นที่จัดแจงการศึกษาเล่าเรียนของตน ถ้าเกิดทำเป็น มั่นใจว่าการปรับปรุงการเรียนรู้จะเร็วขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า รวมทั้งต้องการให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ ยอมรับฟังเสียงจากคนภายในวงการการเรียนด้วย ไม่ใช่ยอมรับฟังแต่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐ ศธ.เพียงแค่นั้น” ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์ กล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.นายอดิศร เนาวนนท์ นักวิชาการเรียนรู้ พูดว่า ไม่มุ่งมาดว่าคนไหนกันจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ด้วยเหตุว่าโดยมากมาจากระบบโควต้าทางด้านการเมือง แม้กระนั้นคาดหมายว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะหาคณะทำงานที่มีความรู้ความสามารถ ความรู้ความเข้าใจในบริบทของการเรียนรู้ มองดูภาพอนาคตของการเล่าเรียนออก กล้าที่จะลงทุนสำหรับในการเตรียมพร้อมเด็กเพื่อไปสู่ศตวรรษที่ 21 ส่วนนายน้องชาย นับว่าเป็นผู้ที่มีบารมีในทางการบ้านการเมือง ก็เลยหวังว่านายอนุชาจะเลือกใช้คนเป็น รวมทั้งควรที่จะเลือกคณะทำงานที่รู้เรื่องการเรียนรู้จริงๆมาช่วยดำเนินการ
“ผมมุ่งหวังว่ารัฐมนตรีคนใหม่ จะนำผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ รู้เรื่อง เอาคนที่ช่ำชองด้านการศึกษาเข้ามาช่วย ไม่ใช่มัวแต่กลุ่มข้างการบ้านการเมือง แกนนำอาจารย์ เข้ามาเป็นคณะทำงาน ด้วยเหตุว่าหากทำแบบงี้ การันตีการเรียนรู้เจ๊งแน่ๆ ด้วยเหตุนั้น การทำงานควรจะมีอีกทั้งบารมีทางด้านการเมือง รวมทั้งรู้เรื่องหน่วยงานอย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้น ควรจะมีจิตเป็นจริงเป็นจังในการพัฒนาการเรียน ไม่ใช้มัวแต่หวังผลทางด้านการเมือง หรือนำคนของตนเข้ามาคุมหน่วยงานที่ส่งผลผลดีแค่นั้น รัฐมนตรีว่าการ ศธ.คนใหม่ ควรต้องรู้ทันข้าราชการด้วย รวมทั้งขอให้ฟังเสียงของนักวิชาการ เพื่อมาประกอบกิจการตกลงใจในการพัฒนาการเรียนด้วย” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.อดิศร กล่าว
จักจี้ รัฐมนตรีว่าการศธ.ใหม่ ‘กล้า-เด็ดขาด’ ยอมรับฟัง ‘นักวิชาการ’ มากยิ่งกว่า ‘ขรก.ประจำ’ ดึงผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนั่งที่ปรึกษาแทนการบ้านการเมือง ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์ จิตระดับ นักวิชาการการเรียน อดีตกาลคุณครูคณะครุศาสตร์ จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย เผยออกมาว่า กรณี พล.อำเภอประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯ ตระเตรียมปรับคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) โดยมีกระแสข่าวว่านายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำนร บางทีอาจถูกโยกไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น แม้นายน้องชายเป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ถือว่าเป็นการขยับขึ้นตามโควต้าของพรรคพลังประชากรเมือง (พปชราชการ) ส่วนจะสมควรไหม เห็นว่ายังไม่สอดคล้องกับบริบท แล้วก็ปัญหาที่เกิดขึ้นทางการเล่าเรียน เพราะเหตุว่า ศธ.เป็นกระทรวงที่มีปัญหาลึก แล้วก็เรื้อรังมายาวนาน จะต้องเป็นผู้ที่รู้เรื่องปัญหาด้านการเรียนจริงๆเข้ามาปรับแก้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าห่วงมากมาย ถ้าเกิดนำผู้ที่เป็นนักการเมือง หรือผู้ที่อยู่ในตำแหน่งทางด้านการเมือง เข้ามาจับการงานเล่าเรียน แล้วก็เกิดเรื่องที่สังคมไทยจำเป็นต้องตื่นตระหนก ถ้าหากนายน้องชายไม่ขยับดำเนินงาน ด้วยเหตุดังกล่าว นายน้องชายจำเป็นต้องทุ่มเทกับการทำงานทางการศึกษามากยิ่งกว่า 100% ถ้าหากไม่ทุ่มเท ไม่ลงจิตใจลงแรงสำหรับการดำเนินการ จะเจอปัญหาสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน รวมทั้งความก้าวหน้าเล่าเรียนแน่ๆ ศาสตราจารย์ดร.สมดงษ์กล่าวว่ากล่าว ดังนี้ คนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บางทีอาจจำเป็นต้องใช้เวลาสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจงานโดยประมาณ 6 เดือน…